กรุงเทพมหานคร เมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจและความเจริญของประเทศ ที่เต็มไปตึกสูง ใหญ่โต และหนาแน่น รถติดฝุ่นควันมลพิษ ความรีบเร่ง และแออัด ยากยิ่งที่จะเห็นต้นไม้ต้นใหญ่สักต้น หรือป่าสักผืน
การขยายตัวอย่างรวดเร็วของเมืองใหญ่ ส่งผลให้วิถีชีวิตผู้คนในเมืองนั้นเหินห่างจากธรรมชาติ เมื่อวันหยุดมาถึงหลายคน หลายครอบครัวเลือกที่จะเดินทางออกไปท่องเที่ยวพักผ่อนตามแหล่งธรรมชาติตรงกันข้ามกับคนที่อยู่ชานเมืองหรือชนบทที่แวดล้อมด้วยต้นไม้ มองไปทางไหนก็เขียวร่มรื่น เย็นกายสบายตา
พื้นที่สีเขียว จึงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่คนเมืองต้องการมากที่สุด
เพราะนอกจากจะเป็นสถานที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกายแต่พื้นที่สีเขียวยังเป็นสิ่งที่ช่วยดูดซึมกลั่นกรองมลพิษ สิ่งสกปรกในอากาศให้กลับมามาสะอาดสู่ปอดของทุกคน ซึ่งนั่นหมายถึงคุณภาพชีวิตที่ดีด้วยเมื่อมีต้นไม้ในเมืองใหญ่
“ถ้ามีต้นไม้เยอะ อากาศก็สดชื่น เย็นสบาย เพราะมันให้ออกซิเจนกับเราครับ” น้องติกเกอร์ ด.ช.ภูวดิษ ดิสปัญญา บอกด้วยรอยยิ้มสดใส ความคิดเล็กๆ ของเด็กๆ สามารถบอกอะไรได้หลายอย่าง สิ่งหนึ่งคือ ทำให้รู้ว่าเด็กๆ รักต้นไม้ เพราะประโยชน์ที่มีมันมากมายมีคุณค่าต่อทุกชีวิตบนโลกใบนี้
ติกเกอร์ และครอบครัว เดินทางจากบ้านย่านชานเมือง เลือกใช้เวลาในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่สวนลุมพินี สวนสาธารณะใจกลางกรุงเทพมหานคร ตั้งใจมาสัมผัสธรรมชาติในเมือง และเข้าร่วมกิจกรรม “Trees and nature activity” เมื่อวันที่ 14 – 16 ธันวาคม ที่ผ่านมา จากความร่วมมือร่วมใจของหลายๆ หน่วยงาน เชิญชวนให้เด็กๆ ในเมือง สัมผัส ผูกพันกับธรรมชาติ ผ่านกิจกรรมหลากหลาย
“ผมอยากฝึกปีนต้นไม้มากเลยครับ เคยแต่ปีนเล่นๆ ที่บ้าน ไม่เคยปีนต้นไม้ใหญ่ๆ สูงๆ แบบนี้ นี่เป็นครั้งแรกตื่นเต้นมากครับ”
เมื่อต้นไม้คือของเล่น ของเล่นคือต้นไม้ การปีนต้นไม้ จึงช่วยให้เด็กได้รู้จัก สัมผัส และใกล้ชิดกับธรรมชาติ เกิดเป็นความผูกพัน และจิตสำนึกในการรักธรรมชาติ อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของ