ปิดบ้าน เปิดใจ ชาวกะเหรี่ยงแก่นมะกรูด

ในช่วงเวลาวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 เป็นช่วงที่ทุกคนต่างร่วมมือกัน หลายพื้นที่มีมาตรการป้องกันอย่างชัดเจน ทั้งของส่วนตน ภายในครอบครัว และระดับชาติ

จากสถานการณ์ปัจจุบัน ทำให้เห็นว่า ผู้ติดเชื้อ มักมีหลักฐานที่อยู่ค่อนข้างชัดเจน ทำให้ทราบได้ว่า พื้นที่เสี่ยงอยู่ที่ใด แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้คนในพื้นที่อื่น ๆ ประมาทหรือผ่อนปรนมาตรการ

อย่างเช่น ชุมชนชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโพล่ง ที่ ต.แก่นมะกรูด อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ที่อาศัยอยู่แนวป่าใกล้กับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ที่แม้ห่างไกลเมือง ก็ยังคงมีมาตรการป้องกันที่เคร่งครัด

“เมื่อรู้ข่าวว่ามีโรคระบาดเกิดขึ้น เราก็เริ่มมีมาตรการให้คนในหมู่บ้านงดออกเดินทางออกนอกหมู่บ้าน และไม่ให้คนนอกเข้าหมู่บ้าน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในพื้นที่ครับ” แหลมทอง มองเชิญ ผู้ใหญ่บ้านบ้านอีมาดอีทราย บอกเล่าถึงมาตรการดูแลกันในหมู่บ้าน

แก่นมะกรูด เป็นตำบลที่มีหมู่บ้านทั้งสิ้น 4 หมู่บ้าน และแบ่งออกเป็น 6 ชุมชน ได้แก่ อีทราย อีมาด เจ้าวัด บ้านใหม่คลองอังวะ บ้านใต้ และไกลที่สุดคือ คลองเสลา ทั้งหมดคือชุมชนชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโพล่ง

“โดยปกติ หลังฤดูเก็บเกี่ยว หรือช่วงเดือนพฤษภาคม เราจะมีพิธีปิดบ้าน หรือเซ้ากูกงกู่อยู่แล้ว การปิดบ้านช่วงโรคระบาดนี้ เลยไม่ได้แปลกมาก ทุกคนในชุมชนสามารถทำได้ทันที และได้ผลนะ เพราะตอนนี้ไม่มีคนติดเชื้อในหมู่บ้านเลย” ผู้ใหญ่บ้านเสริม

หลายปีที่ผ่านมาทีมงานทุ่งแสงตะวัน มีโอกาสเดินทางไปถ่ายทำเรื่องราวของชาติพันธุ์ต่าง ๆ ในบ้านไร่ อุทัยธานี ทั้งชาวลาวครั่งลาวเวียง และชาวกะเหรี่ยงโพล่ง ทำให้เมื่อทราบข่าวการปิดหมู่บ้าน ทีมงานจึงออกเดินทางเพื่อไปเยี่ยมเยือน พร้อมครอบครัวแหล่งข่าวที่คุ้นเคย ครอบครัวศรีเพ็ญจันทร์

“หนูเคยไปที่หมู่บ้านชาวกะเหรี่ยงหลายครั้งค่ะ ชาวบ้านเขาจะสามารถหาอยู่หากินได้รอบ ๆ บ้าน เพราะเขาปลูกพืชผักสวนครัว ในหมู่บ้านอุดมสมบูรณ์ บางครั้งพวกเขาก็เข้าป่าไปหาอาหารได้” ใบเตย ด.ญ.นภัสนันท์ ศรีเพ็ญจันทร์ ลูกสาวคนเล็กของครอบครัวศรีเพ็ญจันทร์ที่ตามพ่อแม่ไปทำกิจกรรมต่าง ๆ อยู่เสมอ ได้รู้จักและเรียนรู้วิถีชีวิตของผู้คนหลากหลายชาติพันธุ์

“การปิดหมู่บ้านครั้งนี้ ไม่มีผลกระทบกับชีวิตมากนัก ชาวบ้านเก็บผักเก็บพืชใกล้บ้านกินได้ อย่างใบมะขามก็นำมาแกงส้มได้ ส่วนเด็ก ๆ ช่วงนี้ปิดเทอม ก็จะเล่นกันในหมู่บ้าน” ผู้ใหญ่บ้านแหลมทองกล่าวเพิ่มเติม

การเดินทางไปเยี่ยมเยือนชาวกะเหรี่ยงของทีมงามทุ่งแสงตะวันในครั้งนี้ ชาวบ้านอาสาเก็บบันทึกภาพเรื่องราวภายในหมู่บ้านมาให้ชม ทีมงานจึงพบว่า เด็ก ๆ ในหมู่บ้านมีกิจกรรมร่วมกันภายใต้บรรยากาศที่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ชาวบ้านยังคงมีสังคม แต่ทุกคนก็รับรู้ถึงวิธีการดูแลป้องกันตนเองให้ห่างไกลจากไวรัสโควิด-19 เป็นอย่างดี

“ปกติแล้ว ถ้าหนูมาที่หมู่บ้าน น้อง ๆ ชาวกะเหรี่ยงจะเข้ามาคุยมาเล่นด้วย แต่รอบนี้น้อง ๆ เดินเว้นระยะไกลมาก และส่งยิ้มให้ ไม่มาทักทาย สงสัยจะกลัวโควิด” ใบเตยกล่าวพร้อมหัวเราะด้วยความขบขัน

เช่นเดียวกับทีมงานทุ่งแสงตะวันที่เดินทางลงพื้นที่ ได้เจอเด็ก ๆ ชาวกะเหรี่ยงที่เคยถ่ายทำเมื่อปีกลาย ยังจดจำกันได้ แต่เด็ก ๆ หลีกเลี่ยงที่จะเข้ามาทักทาย ทำได้เพียงส่งรอยยิ้มมาจากระยะไกล นี่คือสัญญาณที่บอกชัดเจนว่า เด็ก ๆ รู้วิธีในการป้องกันตน และเคร่งครัด อย่างน่าชื่นใจ

เพราะความมีวินัย เคร่งครัดในกฎระเบียบ และมาตรการต่าง ๆ ที่มีร่วมกัน จึงนำพาให้ชุมชนชาวกะเหรี่ยงแก่นมะกรูด และชาวบ้านบ้านไร่ อุทัยธานี ยังคงรอดพ้นจากภัยโรคระบาด ในขณะเดียวกัน ภายใต้วิกฤตครั้งใหญ่ เรายังคงได้เห็นรอยยิ้มของเด็ก ๆ ชาวบ้าน ๆ ที่ยังมีให้กันเสมอ ตามมาชมรอยยิ้มและเรื่องราวในหมู่บ้านปิดของชาวกะเหรี่ยงโพล่ง แก่นมะกรูด ได้ในรายการทุ่งแสงตะวัน ตอน ฝากรักข้ามรั้ว วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม 2563 เวลา 05.05 น. ทางช่อง 3 กด 33 และติดตามกิจกรรมต่าง ๆ ของรายการได้ทางแฟนเพจ Facebook ทุ่งแสงตะวัน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *