พื้นที่สนุก สุขวัยเยาว์

ช่วงวัยเด็ก ต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่างเพื่อเสริมสร้างให้มีพัฒนาการที่ดีตามวัย

ทั้งอาหาร ความรู้ ความเอาใจใส่ต่างๆ จากผู้ปกครอง ที่สำคัญคือสถานที่ที่พร้อมรอให้เด็กๆ เรียนรู้ และเล่นอย่างสร้างสรรค์

ในประเทศไทยมีพื้นที่เปิดรอต้อนรับเด็กๆ ให้เรียนรู้อยู่มากมาย อย่างเช่นที่บ้านป่าเนเจอร์สคูล จ.สระบุรี ตั้งอยู่ติดกับเขาใหญ่ มักเปิดหลักสูตรพิเศษให้เด็กๆ ที่สนใจมาเรียนรู้ศึกษาธรรมชาติ ทั้งพืช สัตว์ สิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ รวมไปถึงการเรียนรู้เรื่องการใช้ชีวิตในธรรมชาติ โดยมีเกรียงไกร สุวรรณภักดิ์ เป็นครูดูแลนำเด็กๆ เรียนรู้อย่างอบอุ่น ทำให้ที่บ้านป่าเนเจอร์สคูลเป็นหนึ่งในพื้นที่ยอดนิยมของเด็กในเมืองที่ตามหาธรรมชาติ

ออกห่างจากภาคกลางเดินทางขึ้นเหนือเล็กน้อย มีพื้นที่สร้างสรรค์เล็กๆ ที่ จ.อุตรดิตถ์ ชื่อว่า ไร่ลุงรัง ของ รังสรรค์ โนนคำ เปิดพื้นที่สวนเกษตรปลอดสารให้เด็กๆ เรียนรู้เรื่องการทำเกษตรพึ่งพาตนเอง และสอนให้เด็กๆ รู้จักกินผักซึ่งเป็นเรื่องสำคัญของเด็กวัยอนุบาล ในช่วงหลังฤดูเก็บเกี่ยว กองฟางเหลือใช้นำมาสร้างสรรค์เป็นงานศิลปะหุ่นกองฟาง เด็กๆ หลายคนติดใจ มาเล่นและเรียนรู้ซ้ำแล้วซ้ำอีกที่ไร่ลุงรัง

ก่อนเดินทางไปอีสาน ขอแวะกรุงเทพมหานครสักนิด กับสวนเกษตร เซฟทิสต์ฟาร์ม บนพื้นที่ 1 ไร่เศษ ริมคลองบางมด ที่มีเรื่องราวแหล่งอาหารธรรมชาติให้เด็กๆ เรียนรู้ ทั้งบ่อปลา ไก่ ไข่ พืชผักผลไม้ สมุนไพรพื้นบ้าน รวมไปถึงกิจกรรมทางน้ำ ทั้งซับบอร์ด คายัก หรือจักรยานน้ำก็มีให้เด็กๆ และผู้ปกครองเล่นสนุก เรียกได้ว่ามาที่เดียวได้ทั้งความรู้และความสุขครบครัน

พื้นที่สร้างสรรค์ที่ส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กๆ ในประเทศมีมากแทบนับไม่ถ้วน ในแต่ละจังหวัดแต่ละภูมิภาคมักมีพื้นที่เปิดรอต้อนรับเด็กๆ อยู่เสมอ เพราะการเรียนรู้นอกห้องเรียน เป็นการเรียนรู้จากของจริง สิ่งที่ได้มักมากกว่าในตำรา

เด็กๆ ที่มีโอกาสออกไปเรียนรู้ของจริงมักมีทักษะชีวิตและความรู้รอบตัว ที่เห็นชัดเจนมากๆ คงต้องยกตัวอย่าง ครอบครัว 2 ป ปุ๊บปั๊บและปั่นปัน สองพี่น้องที่พ่อยอด เจริญพงศ์ ชูเลิศ ชวนเรียนรู้วิชาชีวิต ฝึกทักษะการหาอยู่หากิน รวมไปถึงฝึกจิตใจ สมาธิ ผ่านศิลปะ ทำให้พี่น้อง 2 ป วัยอนุบาลและประถมต้นมีทักษะชีวิต ความรู้รอบตัว มากกว่าเด็กๆ ในวัยเดียวกัน

01 บ้านป่าเนเจอร์สคูล กับกิจกรรมธรรมชาติ
06 เล่นให้สุด รู้ให้เก่ง

ปุ๊บปั๊บและปั่นปันสามารถแยกแยะชนิดของใบไม้ ดอกไม้ รวมถึงพืชผักพื้นบ้านได้แม้ในวัยอนุบาล เพราะพ่อยอดมักพาสองพี่น้องเรียนรู้ธรรมชาติรอบบ้านอยู่เสมอ

และด้วยความที่พ่อยอดเป็นนักกิจกรรมที่เชี่ยวชาญด้านการแสดงละครหุ่นเงาใบไม้ มีความสามารถด้านการนำธรรมชาติมาสร้างสรรค์ศิลปะหุ่นเงา และนำมาประกอบเล่าเป็นนิทานสนุกสนาน สอนเด็กๆ ทั้งในชุมชนและเด็กๆ ทั่วประเทศให้รู้จักการใช้ความคิดสร้างสรรค์ 2 ป ปุ๊บปั๊บและปั่นปัน ที่ได้เห็นได้สัมผัสสิ่งที่พ่อทำมาตลอดจนซึมซับ เรียกได้ว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น

ในโอกาสวันเด็กแห่งชาติที่กำลังมาถึงนี้ ทุ่งแสงตะวันจึงชวนครอบครัวชูเลิศ นำนิทานเรื่อง “ลูกยางเดินทาง” ที่แต่งโดยพี่นก นิรมล เมธีสุวกุล มาสร้างสรรค์เป็นละครหุ่นเงา ฝึกซ้อมจนมั่นใจ และเตรียมแสดงเต็มรูปแบบในวันเสาร์นี้

รับชมพร้อมกันในรายการทุ่งแสงตะวัน ตอน ลูกยางเดินทาง วันเสาร์ที่ 9 ม.ค. 2564 เวลา 05.05 น. ทางช่อง 3 กด 33 และทางแฟนเพจ ทุ่งแสงตะวัน

ชมคลิปตัวอย่าง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *