“ปกติตื่นเช้ามาต้องรีบอาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียน แต่ช่วงโควิดระบาดก็ตื่นสายกว่าปกติแล้วก็ไม่ต้องไปโรงเรียน”
หากนึกย้อนกลับไปในวัยเด็ก ผู้ใหญ่ หลายคนคงเคยผ่านความรู้สึกที่ว่าตอน เปิดเทอมก็อยากปิดเทอม พอตอนปิดเทอมก็อยากเปิดเทอม นั่นเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นในขณะที่ชีวิตวัยเรียนสงบและปกติสุข
แต่ในปี พ.ศ.2563 จนกระทั่งปีนี้ พ.ศ.2564 ปัญหาโรคระบาดโควิด-19 ทำให้ระบบชีวิตของคนทุกช่วงวัยผันแปรเปลี่ยนไป โดยเฉพาะกับเด็กๆ วัยเรียน
โตโต้ ด.ช.ปฏิพัฒน์ หางแก้ว วัยประถมศึกษาปีที่ 5 การศึกษาต้องสะดุด ไม่ต่างจากเด็กๆ วัยเรียนในประเทศรวมถึงต่างประเทศทั่วโลก การแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ค่อยๆ เข้มข้นขึ้น เริ่มจากการใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ จากเรื่องที่ทุกคนต้องดูแลปรับเปลี่ยนพฤติกรรมส่วนตัว ขยับเป็นมาตรการส่วนรวม หนึ่งในนั้นคือการอยู่บ้านเพื่อหยุดการแพร่กระจายเชื้อ
“ตอนแรกผมก็ว่าดีฮะ ได้อยู่บ้านสบายๆ แต่พออยู่นานๆ เข้า ทำอะไรซ้ำๆ เดิมๆ อย่างเช่นการเรียนออนไลน์ การทำการบ้านส่งทางออนไลน์ ผมเลยเริ่มเบื่อฮะ” โตโต้บอกเล่าความรู้สึก
การประกาศปิดเรียนที่ไม่มีกำหนดเกิดขึ้นถึง 2 ช่วงในรอบปีที่ผ่านมา เด็กๆ วัยเรียนต้องปรับตัวจากการนั่งเรียนร่วมกันในห้องเรียนมาเป็นการเรียนออนไลน์ผ่านหน้าจอซึ่งจำเป็นต้องใช้ปัจจัยหลายอย่างเพื่อเอื้ออำนวยในการเรียน อย่างเช่นโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้เดิมทีเป็นสิ่งยั่วยุที่หลายหน่วยงานรณรงค์ให้เด็กๆ ใช้งานให้น้อยลงและหันมาทำกิจกรรมอื่นๆ มากขึ้น แต่เมื่อโลกเปลี่ยนไป มาตรการต่างๆ กลับต้องหวังพึ่งพาสิ่งเหล่านี้มากขึ้น
“ปกติถ้าไม่ใช่ช่วงโรงเรียนประกาศปิด แม่จะให้ผมเล่นมือถือได้แค่ 1-2 ชั่วโมง หลังจากทำการบ้านเสร็จครับ”
การใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์มีทั้งโทษและประโยชน์ หากแต่การใช้งานของเด็กๆ จำเป็นต้องได้รับการดูแลใกล้ชิด โตโต้เป็นเด็กคนหนึ่งที่สนใจอยากเล่น อยากรู้ และอยากลอง ทำให้ผู้ปกครองยังต้องสอดส่องดูแลใกล้ชิด ยิ่งในช่วงวิกฤตโควิดนี้เด็กๆ มีเวลาว่างมากขึ้นยิ่งต้องจำกัดการเล่นไม่ให้เล่นมากเกินไป
“บางครั้งการที่เด็กๆ หันมาติดมือถือ ติดเกม ก็เพราะเขาไม่มีกิจกรรมอย่างอื่นทำ เขาจึงเลือกจับมือถือ ถ้าเราชวนเขาทำ กิจกรรมอื่นๆ ได้ ปัญหาการติดมือถือก็จะ น้อยลงค่ะ” รัตน์ ลูกพี่ลูกน้องของโตโต้ชวนโตโต้หากิจกรรมทำร่วมกันแทนการเล่นมือถือ
“พี่รัตน์ให้ผมบอกความสนใจที่อยากทำครับ ผมเลือกการเป็นยูทูบเบอร์ เพราะผมชอบดูและผมชอบกิน ก็เลยออกมาเป็นรายการกินโต้คลื่นที่ผมจะทำอาหารและกินให้คุณผู้ชมดู ตอนนี้กำลังถ่ายทำอยู่ฮะ รอติดตามชมได้เลย” โตโต้พูดไปยิ้มไปด้วยความขวยเขิน
